บัญชีสำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าออนไลน์
กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจัดทำบัญชีแสดงรายได้และรายจ่ายประจำวันด้วยเหตุนี้การทำบัญชีสำหรับร้านค้าออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ประกอบการขนาดเล็กหลายๆ รายอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าการทำบัญชีนั้นมีไว้สำหรับบริษัทใหญ่หรือเพื่อร้านค้าทั่วไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็สามารถทำบัญชีให้กับร้านได้เหมือนกัน ซึ่งการทำบัญชีให้ร้านนั้นนอกจากจะเป็นการสรุปยอดขายและรายจ่ายในทุกๆ เดือนแล้ว ยังช่วยให้เรามีข้อมูลสรุปรายได้ที่ชัดเจนแน่นอนนอกเหนือจากตัวเลขที่ระบบของเว็บไซต์บันทึกเอาไว้อีกด้วย
การทำบัญชีร้านค้า มีหลักการ 3 ข้อง่าย ๆ ดังนี้
- ทำเอกสารให้อ่านง่ายและหมั่นบันทึกยอดรับ-จ่ายทุกวัน
การทำบัญชีทุกประเภท หากคุณทำบัญชีด้วยตัวเองอาจเลือกทำตารางในแบบที่เราเข้าใจง่าย เลือกดูข้อมูลได้ง่าย และยิ่งข้อมูลละเอียดเท่าไรก็ยิ่งทำให้เราสามารถสรุปรายการต่างๆ และมองเห็นความเคลื่อนไหวของตัวเลขสถิติของร้านได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมบันทึกยอดรายรับและรายจ่ายของร้านทุกวันให้เป็นนิสัย โดยควรจดบันทึกเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรมาจดย้อนหลังเพราะอาจทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลและตัวเลขได้
- ซื่อสัตย์กับตัวเองและจดบันทึกทุกครั้งที่งบประมาณของร้านมีการเคลื่อนไหว
หลายครั้งที่เจ้าของร้านมักจะชอบหยิบยืมหรือใช้เงินปนกันระหว่างเงินส่วนตัวและเงินของร้าน ด้วยเพราะคิดว่านั่นก็คือเงินของคุณ แต่อย่างไรก็ตามการนำเงินงบประมาณของร้านไปใช้อาจทำให้เมื่อถึงเวลาสรุปยอดประจำเดือนหรือประจำปี ตัวเลขรายรับรายจ่ายที่ได้อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าว เราจึงต้องทำการจดบันทึกทุกครั้งที่นำเงินออกจากกองกลางของร้านไม่ว่าจะนำไปใช้จ่ายด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากต้องการทำบัญชีอย่างถูกต้องและครบถ้วน ก็ต้องจดบันทึกรายการต่างๆ ด้วยความซื่อสัตย์
- สรุปยอดบัญชีทุกเดือนและทำสรุปรายปี
การสรุปยอดบัญชีทุกๆ เดือนจะทำให้เรามองเห็นภาพรวมรายรับและรายจ่ายของร้านค้าออนไลน์ของเรา นอกจากนี้ยังทำให้เมื่อถึงเวลาทำสรุปยอดรายปีก็สามารถรวบรวมข้อมูลและทำสรุปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
โดยรูปแบบของการทำตารางรายรับ-รายจ่ายสามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
เริ่มต้นการสร้างตารางด้วย excel file หรือในสมุดจดโดย จะต้องมีส่วนประกอบสำคัญ 5 ส่วน แบ่งเป็น
- ส่วนที่ 1 ช่องวัน เดือน ปี ให้เขียนวันที่มีรายการรับเงินและจ่ายเงิน
- ส่วนที่ 2 ช่องรายการ ให้บันทึกรายละเอียดของรายการรับเงิน และ รายการจ่ายเงินที่เกิดขึ้นประจำวัน
- ส่วนที่ 3 ช่องรายรับ ให้บันทึกจำนวนเงินที่ได้รับเข้ามา เช่น ขายสินค้า, กู้ยืมเงิน เป็นต้น
- ส่วนที่ 4 ช่องรายจ่าย แบ่งเป็น รายจ่ายซื้อสินค้า และรายจ่ายอื่นๆ
- ส่วนที่ 5 ช่องลงยอดรวมรายเดือน ให้รวมเงินในแต่ละเดือนสิ้นเดือนให้รวมเงินที่ได้รับและจ่ายไป ในบันทึกรวมเขียนชื่อเดือนกำกับไว้ เมื่อลงรายการครบทุกช่องแล้ว นำตัวเลขสรุปตอนสิ้นเดือนซึ่งนอกจากเราจะทราบรายได้ รายจ่าย กำไร(ขาดทุน) ในแต่ละเดือนแล้วเรายังสามารถนำไปแสดงรายได้ในการยื่นเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว โดยให้รวมบัญชีเงินสด รับ-จ่าย สรุปยอดทุกเดือนตั้งแต่เดือน มกราคม – ธันวาคม นำไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยแบบ ภ.ง.ด.90 และรายรับครึ่งปี ตั้งแต่เดือน มกราคม – มิถุนายน นำไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยแบบ ภงด.94 อย่าลืมเก็บเอกสารประกอบค่าใช้จ่ายบิล,ใบแจ้งหนี้ใบสำคัญจ่าย และเอกสารรับเงิน เช่น ใบเสร็จรับเงิน,ใบนำฝากธนาคาร,สำเนารายการเคลื่อนไหวบัญชีธนาคาร แยกเป็นหมวดหมู่รายเดือนให้เรียบร้อย
เพียงเท่านี้เราก็จะได้รูปแบบการทำบัญชีอย่างง่ายสำหรับร้านค้า ทำให้กิจการของคุณมีระเบียบและมีการบริหารบัญชีที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น